วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การสนทนาระหว่างพระพุทธเจ้ากับอาฬวกยักษ์

อาฬวกยักษ์ถามว่า
๑. ทรัพย์ที่ประเสริฐเลิศล้ำของมนุษย์คืออะไร
๒. บุคคลประพฤติตามอะไรจึงมีความสุข
๓. รสที่ดีที่สุดคือรสอะไร
๔. ชีวิตของคนเช่นไรที่ปราชญ์ทั้งหลายสรรเสริญว่าเป็นอุดมชีวิต
พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า
๑. ศรัทธาเป็นยอดแห่งทรัพย์ของมนุษย์
๒. ผู้ประพฤติตามธรรมย่อมมีความสุข
๓. รสแห่งความสัตย์เป็นยอดแห่งรส
๔. ชีวิตของผู้ที่มีปัญญาจัดว่าเป็นอุดมชีวิต
อาฬวกยักษ์ถามว่า
๑. คนจะข้ามห้วงน้ำคือกิเลสได้อย่างไร
๒. คนจะข้ามห้วงมหรรณพแห่งสังสารวัฎได้อย่างไร
๓. คนจะล่วงทุกข์ได้อย่างไร
๔. คนจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร
พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า
๑. คนจะข้ามห้วงน้ำคือกิเลสได้ก็ด้วยศรัทธา
๒. คนจะข้ามห้วงมหรรณพแห่งสังสารวัฎได้ก็ด้วยความไม่ประมาท
๓. คนจะล่วงทุกข์ได้ก็ด้วยความเพียร
๔. คนจะบริสุทธิ์ได้ก็ด้วยปัญญา
อาฬวกยักษ์ถามว่า
๑. ทำอย่างไรจึงจะมีปัญญา
๒. ทำอย่างไรจึงจะมีทรัพย์
๓. ทำอย่างไรจึงจะมีเกียรติ
๔. ทำอย่างไรจึงจะชนะใจคน
๕. ทำอย่างไรตายแล้วจึงจะไม่เศร้าโศก
พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า
๑. คนที่ต้องการบรรลุพระนิพพาน เชื่อคำสอนของพระอรหันต์ไม่ประมาท
รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล รู้จักฟัง ย่อมมีปัญญา
๒. คนที่ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ มีความขยัน ย่อมมีทรัพย์
๓. คนที่มีสัจจะ ย่อมมีเกียรติ
๔. คนที่บำเพ็ญตนเป็นผู้ให้ ย่อมชนะใจคน
๕. ผู้อยู่ครองเรือน มีศรัทธา นำธรรมะ ๔ ประการ คือ
สัจจะ ทมะ(การฝึกตน)ขันติ(อดทน) และจาคะ(บริจาค)มาประพฤติ
ตายแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก



คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เติมส่วนขาดตัดส่วนเกิน ท่าน ว.วชิรเมธี

ลดความเห็นให้น้อยลง เพิ่มความรู้ให้มากขึ้น
ลดความรู้สึกให้น้อยลง เพิ่มความรู้ตัวให้มากขึ้น
ลดความเชื่อให้น้อยลง เพิ่มปัญญาให้มากขึ้น
ลดการพูดให้น้อยลง เพิ่มการฟังมากขึ้น
ลดการด่าให้น้อยลง เพิ่มคำแนะนำให้มากขึ้น
ลดความกลัวให้น้อยลง เพิ่มความใจกล้าให้มากขึ้น
ลดความอยากให้น้อยลง เพิ่มความยับยั้งชั่งใจให้มากขึ้น
ลดอัตตาให้น้อยลง เพิ่มความอ่อนน้อมถ่อมตนให้มากขึ้น
ลดความก้าวร้าวให้น้อยลง เพิ่มความสุภาพให้มากขึ้น
ลดความเห็นแก่ตัวให้น้อยลง เพิ่มการให้ให้มากขึ้น
ลดความเกลียดชังให้น้อยลง เพิ่มความรักให้มากขึ้น
ลดความโกรธให้น้อยลง เพิ่มความเมตตาให้มากขึ้น
ลดความงมงายให้น้อยลง เพิ่มความมีเหตุผลให้มากขึ้น
ลดการเที่ยวเตร่ให้น้อยลง เพิ่มการอยู๋กับครอบครัวให้มากขึ้น
ลดการพนันให้น้อยลง เพิ่มการบุญการกุศลให้มากขึ้น
ลดการคบคนพาลให้น้อยลง เพิ่มการคบบัณฑิตให้มากขึ้น
ลดการทำงานให้น้อยลง เพิ่มเวลาให้ตัวเองให้มากขึ้น
ลดการแข่งขันให้น้อยลง เพิ่มการแบ่งปันให้มากขึ้น
ลดความวุ่นวายให้น้อยลง เพิ่มความสงบสุขให้มากขึ้น


วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขอพรอย่างปัญญาชน ท่าน ว.วชิรเมธี

โครงการพัฒนาสังคมแห่งความเท่าเทียมด้วย ICT

ฟังเพลง
**ฟังแต่เพลงอย่างเดียวไม่ต้องสนใจสมัครงานหรือโฆษณา**



ขอให้ข้าพเจ้า อย่าหลงผิดคิดไปว่า ลำพังการขอเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องลงมือทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าละเลยการใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิตด้วยความสุขุมคัมภีรภาพ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าประมาทขาดสติในทุกเรื่องที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าพอใจในการเป็นคนคดในข้องอในกระดูกตลบตแลงปลิ้นปล้อนลื่นไหลเฉกเช่นศรีธนญชัย
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นนักจับผิดมองโลกแต่ในแง่ร้าย เห็นแต่ด้านที่เลวทรามต่ำช้าของมนุษยชาติผู้มีทั้งความดีงามและความผิดพลาดในชีวิตเป็นธรรมดา
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัวคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัวจนมองไม่เห็นหัวคนอื่นรวมทั้งส่วนรวม
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าพอใจในการประพฤติทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงหลอกลวงประชาชนในทุกรูปแบบ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นคนละโมบโลภมากใน ยศ ทรัพย์ อำนาจ ชื่อเสียง กามารมณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเกิดมาเสียเวลาเปล่าโดยไม่เคยประทับรอยแห่งความดีงามฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นคนลืมตัว หลงผิด คิดว่าตนเก่ง ตนดีอยู่คนเดียว โดยไม่มีใครคอยช่วยเหลือเกื้อกูล
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าพอใจในการขุดคุ้ย แคะไค้ฝืนฝอยความหลังอันเจ็บปวด ปมด้อยอันขมขื่นความผิดพลาดอันน่าละอายของคนอื่นขึ้นมานินทา บอกเล่า ให้เขาได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นมนุษย์บ้างานที่เห็นงานสำคัญที่สุดในชีวิตจนทอดทิ้งการดูแลสุขภาพ สถาบันครอบครัว และความรับผิดชอบทางสังคม
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเลือกคบคนผิดติดจมอยู่ในหมู่คนเลว คนถ่อย คนทราม คนช่างประจบสอพลอผู้เป็นศัตรูแต่แฝงตัวมาในร่างของมิตร
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นคนเนรคุณบุพการีผู้มีพระคุณอย่างมารดรบิดาปู่ย่าตายายและกัลยาณมิตรผู้เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือเกื้อกูลให้ในยามตกยาก
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเหยียบย่ำซ้ำเติมคนที่กำลังตกต่ำ อย่าริษยาคนที่กำลังรุ่งโรจน์ อย่าเย็นชาต่อผู้ที่ตกอยู่ท่ามกลางหายนะภัยในรูปแบบต่างๆ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าสูญเสียสามัญสำนึกซึ่งเป็นเหตุให้ไม่รู้ดีรู้ชั่วไม่กลัวกฎแห่งกรรมและนิยมเหยียบย่ำกฎหมาย
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าเป็นคนก้าวร้าว รุนแรงอหังการ หยาบกระด้าง สร้างแต่ความระคายเคืองให้คนอื่น
ขอให้ข้าพเจ้า อย่ากลัว อย่าหงอต่อคนชั่ว ต่อคนถ่อย ต่อคนบ้า ต่อความอยุติธรรมที่กำลังครอบงำประชาชนและยุคสมัย
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าดูถูกตนเองว่าเป็นคนที่ต่ำต้อยด้อยค่าอันนำมาซึ่งความหดหู่ท้อแท้สิ้นหวังไม่ลุกขึ้นมาแก้ปัญหาชีวิต
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าถูกมอมเมาปั่นหัวให้ต้องลุกขึ้นมาทำสงครามกลางเมืองระหว่างพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันเอง


วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สร้างให้เสร็จ ท่าน ว.วชิรเมธี

สร้างบ้านแล้ว อย่าลืมสร้าง ความอบอุ่นในบ้านด้วย
สร้างวัดแล้ว อย่าลืมสร้าง ความสะอาด สงบ สว่างด้วย
สร้างสังคมแล้ว อย่าลืมสร้าง ความมีบรรทัดฐานด้วย
สร้างชาติแล้ว อย่าลืมสร้าง ความสงบสุขด้วย
สร้างพรรคแล้ว อย่าลืมสร้าง อุดมการณ์ด้วย
สร้างมหาวิทยาลัยแล้ว อย่าลืมสร้าง ปัญญาชนด้วย
สร้างโรงเรียนแล้ว อย่าลืมสร้าง บุคคลผู้ใฝ่รู้ด้วย
สร้างถนนแล้ว อย่าลืมสร้าง ความปลอดภัยบนท้องถนนด้วย
สร้างลูกแล้ว อย่าลืมสร้าง ความเป็นมนุษย์ให้ลูกด้วย
สร้างบริษัทแล้ว อย่าลืมสร้าง ความเป็นผู้มีจรรยาบรรณด้วย
สร้างธุรกิจแล้ว อย่าลืมสร้าง ความโปร่งใสในการดำเนินการด้วย
สร้างความสัมพันธ์แล้ว อย่าลืมสร้าง ความรับผิดชอบด้วย
สร้างความสุขแล้ว อย่าลืมสร้าง ความชอบธรรมของความสุขด้วย
สร้างความทุกข์แล้ว อย่าลืมสร้าง ความรู้ว่าความทุกข์นั้นเราดับมันได้ด้วย
สร้างความสมหวังแล้ว อย่าลืมสร้าง ความพร้อมที่จะผิดหวังด้วย
สร้างความขยันแล้ว อย่าลืมสร้าง ความรู้จักพักผ่อนด้วย
สร้างโรงพยาบาลแล้ว อย่าลืมสร้าง ความรู้จักดูแลสุขภาพด้วย
สร้างทางด่วนแล้ว อย่าลืมสร้าง ความปลอดภัยด้วย
สร้างทางม้าลายแล้ว อย่าลืมสร้าง คนให้รู้จักข้ามด้วย
สร้างมิตรภาพแล้ว อย่าลืมสร้าง ความซื่อสัตย์ด้วย
สร้างหนังสือแล้ว อย่าลืมสร้าง ความรักการอ่านด้วย
สร้างอนาคตแล้ว อย่าลืมสร้าง ความอยู่กับปัจจุบันด้วย
สร้างชีวิตแล้ว อย่าลืมสร้าง ความ "รู้ตี่น เบิกบาน" ให้ชีวิตด้วย


คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ธรรมะจากหลวงพ่อจรัญ



เงินไม่สำคัญเสมอไป
เงินซื้อเตียงนอนได้ แต่ ซื้อการหลับที่เป็นสุขไม่ได้
เงินซื้อกระดาษได้ แต่ ซื้อความเป็นกวีไม่ได้
เงินซื้ออาหารดีๆได้ แต่ ซื้อความอยากรับประทานไม่ได้
เงินซื้อความประจบสอพลอได้ แต่ ซื้อความจริงใจไม่ได้
เงินซื้อการตามใจได้ แต่ ซื้อความจงรักภักดีไม่ได้
เงินซื้อเพชรนิลจินดาได้ แต่ ซื้อความงามไม่ได้
เงินซื้อความสนุกชั่วครู่ได้ แต่ ซื้อความสุขไม่ได้
เงินซื้อเพื่อนร่วมเดินทางได้ แต่ ซื้อเพื่อนแท้ไม่ได้
เงินซื้ออำนาจราชศักดิ์ได้ แต่ ซื้อปัญญาไม่ได้
เงินซื้ออาวุธยุทธภัณฑ์ได้ แต่ ซื้อสันติสุขไม่ได้
เงินซื้อเมียที่สวยได้ แต่ ซื้อแม่ที่ดีให้ลูกไม่ได้
เงินจะสำคัญเมื่อจำเป็นต้องใช้เท่านั้น



วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

คำสอนจากวัดน้ำตกวังก้านเหลือง

พระพุทธชินสีห์วัดบวรนิเวศ

คนบ้าอย่าถือ คนดื้ออย่าสอน คนจรอย่าเชื่อ คนเบื่ออย่าให้

คนใบ้อย่าบวช คนอวดอย่าขัด คนฉัดอย่าฉิน คนหมิ่นอย่าคบ

คนประจบอย่ารัก คนทักอย่านิ่ง คนจริงอย่าหน่าย คนตายอย่ากลัว

คนชั่วอย่าใกล้ คนไพร่อย่าสมาน คนพาลอย่าสมัคร คนรักอย่าเผลอ

คนเก้ออย่าชม คนชมอย่าชอบ คนบอบอย่าซ้ำ คนกล้าอย่าผลัก

คนนั่งอย่านอน คนสอนอย่าดื้อ คนถืออย่าชิง คนจวนอย่าห้าม

คนถามอย่าเฉย คนเคยอย่าหมิ่น คนถิ่นให้ถาม คนงามให้ดู

คนครูให้ไหว้ คนใกล้ให้แบ่ง คนแต่งให้เสริม คนเริ่มให้ช่วย

คนป่วยให้ยา คนมาให้กิน คนศีลให้กราบ คนบาปให้เว้น

คนเห็นให้หยุด คนสุดให้แนะ คนชิดให้ห่าง คนว่างให้ทำ

คนนำให้ตาม คนหามให้ช่วย คนม้วยให้ฝัง คนยังให้เลี้ยง

คนมัดให้แก้ คนแก่ให้เกียรติ คนแวะให้พัก คนจักให้สาน

คนงานให้ใช้ คนไกลให้ติด คนเครียดให้อด จดจำไว้เอย

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

น่าเสียดาย


โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน

น่าเสียดาย
ที่เรามีพุทธเป็นศาสนาประจำชาติแต่เรากลับศรัทธาไสยศาสตร์หัวปักหัวปำ

น่าเสียดาย
ที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่แสนดีแต่เรากลับมีคนโกงกินเต็มบ้านเต็มเมือง

น่าเสียดาย
ที่เรามีวัดอยู๋เกือบทุกหมู่บ้าน/ตำบลแต่เรากลับมากด้วยคนขาดจริยธรรม

น่าเสียดาย
ที่เราสถาปนาประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ.2475 แต่เรากลับมีการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว 14 ครั้ง

น่าเสียดาย
ที่เรามีมหาวิทยาลัยมากมายติดอันดับโลกแต่เรากลับโชคร้ายที่คนไทยชอบดูดวงบวงสรวงเทพยดา

น่าเสียดาย
ที่เรามีป่าไม้-แม่น้ำ-ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แต่เรากลับเทิดทูนการทำลายมากกว่าการรักษา

น่าเสียดาย
ที่เรามีศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเองแต่เรากลับเก่ง "การลอกเลียนแบบ" เป็นที่สุด

น่าเสียดาย
ที่เรามีสื่อมวลชนมากมายไร้พรมแดนแต่เจ็บปวดเหลือแสนเมื่อสื่อมวลชนมุ่งแต่การขายสินค้า

น่าเสียดาย
ที่เรามีกฎหมายแต่เรากลับปล่อยให้มีการใช้กฎหมู่จนเป็นเรื่องธรรมดา

น่าเสียดาย
ที่เรามีหนังสือมากมายหลายพันเล่มในห้องสมุดแต่สถิติสูงสุดคือการอ่านหนังสือกันปีละ 8 บรรทัด

น่าเสียดาย
ที่เรามีอินเตอร์เน็ตใช้ก่อนประเทศใดในโลกที่สามแต่เรากลับเสื่อมทรามเพราะใช้ถ่ายภาพคลิปโป๊

น่าเสียดาย
ที่เรามีสถานีโทรทัศน์หลายสิบช่องแต่เรากลับจ้องจะดูแต่ละครน้ำเน่า

น่าเสียดาย
ที่เรามีพ่อแม่อยู่ในบ้านแต่เรากลับปล่อยให้ท่านอยู่อย่างเปลี่ยวเหงา

น่าเสียดาย
ที่เราสามารถกลับตัวเป็นคนดีได้แต่เรากลับชอบใจที่จะเป็นคนเลวตลอดกาล

น่าเสียดาย
ที่เราสามารถเป็นอิสระจากความอยากได้แต่เรากลับหายใจอยู่กับการสนองความอยาก

น่าเสียดาย
ที่เราสามารถบรรลุนิพพานได้ในชาตินี้แต่เรากลับยินดีอยู่แค่การทำบุญให้ทาน

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คิดบวก ชีวิตบวก จากท่าน ว.วชิรเมธี


คิดบวก ชีวิตบวก จากท่าน ว.วชิรเมธี
เวลาเจองานหนัก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ
เวลาเจอคำตำหนิ
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอความพลัดพรากจากคนรักของรัก
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ
ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง

http://soojayanont.hi5.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขืนทำ.....จะช้ำใจ



อย่าทำงานจนป่วยตาย
อย่าหลงเสน่ห์อบายมุข
อย่ามีความสุขที่ผิดศีลธรรม
อย่าจำแต่เรื่องเลวร้าย
อย่าสบายจนเคยตัว
อย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้า
อย่าบ้าฟังคำคนสอพลอ
อย่ารอให้พระเจ้ามาช่วย
อย่ารวยบนความฉ้อฉล
อย่าเป็นคนเห็นแก่ได้
อย่าใช้คนไม่เหมาะกับงาน
อย่าปากหวานจนเสียระบบ
อย่าคบคนมองโลกในแง่ร้าย
อย่าขายศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์
อย่าเป็นชาวพุทธแต่พึ่งไสย

อย่าสนใจแต่เรื่องของตัวเอง
อย่าเก่งอยู่คนเดียว
อย่าเที่ยวเกินขอบเขต
อย่าใช้พระเดชจนลืมพระคุณ
อย่าพึ่งใบบุญคนอื่นตลอดกาล
อย่าชำนาญในเรื่องชั่วชั่ว
อย่าเมามัวกิน กาม เกียรติ
อย่าขึ้งเคียดต่อคนที่คิดต่าง
อย่าปลูกต้นกร่างต้นไทร
อย่าลืมใครผู้เคยทำคุณ
อย่าสนับสนุนคนพาล
อย่าให้ทานแก่คนไม่เห็นคุณค่า
อย่ายกเงินตราขึ้นเป็นพระเจ้า



คลิ๊กที่นี่ไป http://www.btc.ac.th

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บุตรธิดาคือกระจกเงาของพ่อแม่



จาก ท่าน ว.วชิรเมธี
หากคุณเอาดอกไม้ใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนจิตใจงดงาม
หากคุณเอาความรักใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนเปี่ยมเมตตา
หากคุณเอาเหตุผลใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์
หากคุณเอาหนังสือใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นปัญญาชน
หากคุณเอาธรรมะใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนดี
หากคุณเอานิสัยแห่งการให้ใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนมีจิตสำนึกสาธารณะ
หากคุณเอาสมบัติผู้ดีใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นสุภาพบุรุษ/สุภาพสตรี
หากคุณเอาดนตรีใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนอารมณ์ดี
หากคุณเอาธรรมชาติใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนรักความสงบ
หากคุณเอาความก้าวร้าวใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นอันธพาล
หากคุณเอาความตามใจใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นลูกบังเกิดเกล้าจอมอหังการ
หากคุณเอาเงินใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนมักง่าย
หากคุณเอาปืนใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นฆาตกร
หากคุณเอาวัตถุแพงๆ ใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนยึดติดวัตถุนิยม
หากคุณเอาความรักความสบายใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนหยิบโหย่งอ่อนแอ
หากคุณเอาความไม่รับผิดชอบใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนสูญเสียสามัญสำนึก
หากคุณเอาความริษยาใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนที่ขาดความสงบสุขในชีวิต
หากคุณเอาแต่วิชาชีพใส่มือเด็ก
เขาจะกลายเป็นคนสมองโต แต่ใจตีบ
คุณในฐานะที่เป็นพ่อและแม่
ทุกวันนี้คุณเอาอะไรใส่มือเด็ก ๆ ของคุณ ?



คลิ๊กที่นี่ไป http://www.alumni.ru.ac.th
ขอบคุณ, thank you, ขอบใจ, comment hi5
[widget.sanook.com - *More Feel*]

คำถามคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์

click in picture to website of Ramkhamhaeng university