วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
พระคุณแม่
ทั้งสามภพ  ยกตั้ง  ขึ้นชั่งเปรียบ
หนักไม่เทียบ พระคุณแม่ สุดแลหา
ถึงอบอุ่น สุริยัน และจันทรา
อกมารดา อิงอุ่น กว่าสูรย์จันทร์
ถึงธารทิพย์ หลั่งไหล มาให้ดื่ม
ไม่ปลาบปลื้ม ซาบซ่าน เท่าธารถัน
ถึงนางฟ้า มาอุ้ม ช่วยคุ้มกัน
ไม่เทียมทัน ตาแม่ ที่แลมอง
แม้สังขาร ราญแหลก แม่แลกได้
หวังจะให้ ลูกตน พ้นภัยผอง
แม้สูญสิ้น ดินฟ้า ธารานอง
พระคุณของ แม่ข้านี้ ย่อมมีเอย
หนักไม่เทียบ พระคุณแม่ สุดแลหา
ถึงอบอุ่น สุริยัน และจันทรา
อกมารดา อิงอุ่น กว่าสูรย์จันทร์
ถึงธารทิพย์ หลั่งไหล มาให้ดื่ม
ไม่ปลาบปลื้ม ซาบซ่าน เท่าธารถัน
ถึงนางฟ้า มาอุ้ม ช่วยคุ้มกัน
ไม่เทียมทัน ตาแม่ ที่แลมอง
แม้สังขาร ราญแหลก แม่แลกได้
หวังจะให้ ลูกตน พ้นภัยผอง
แม้สูญสิ้น ดินฟ้า ธารานอง
พระคุณของ แม่ข้านี้ ย่อมมีเอย
วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ธรรมะ ๙ ตา คือภาวะธรรมดา
๑. อนิจจตา = ความไม่เที่ยงแท้ เปลี่ยนแปลงเสมอไปตามเหตุปัจจัย
๒. ทุกขตา = ความทนอยู่ได้ยาก
๓. อนัตตตา = ความไม่เป็นตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวรของมันเอง
๔. ธัมมัฎฐิตตา = ความตั้งอยู่แห่งธรรมชาติ แห่งธรรมดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๕. ธัมมนิยามตา = ความเป็นไปตามกฎตายตัวแห่งธรรมชาติแห่งธรรมดากฎเกณฑ์
อันเด็ดขาดของธรรมชาติ บังคับอยู่อย่างนี้
๖. อิทัปปัจจยตา = คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
การเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรต้านทานให้เป็นอย่างอื่่นได้
๗. สุญญตา = ความว่างจากความหมายแห่งตัวตน(การปฏิับัติสุญญตา คือ การปฏิบัติทั้งหมด)
๘. ตถาตา = ความเป็นเช่นนั้นเอง เป็นอย่างอื่นไม่ได้
๙. อตัมมยตา = ความไม่เกี่ยวข้องด้วยความเป็นคู่ , ภาวจิตที่อยู่เหนือการปรุงแต่ง ,
ไม่สำเร็จมาจากสิ่งนั้น (กูไม่เอากะมึงนะโว้ย)
๒. ทุกขตา = ความทนอยู่ได้ยาก
๓. อนัตตตา = ความไม่เป็นตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวรของมันเอง
๔. ธัมมัฎฐิตตา = ความตั้งอยู่แห่งธรรมชาติ แห่งธรรมดาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๕. ธัมมนิยามตา = ความเป็นไปตามกฎตายตัวแห่งธรรมชาติแห่งธรรมดากฎเกณฑ์
อันเด็ดขาดของธรรมชาติ บังคับอยู่อย่างนี้
๖. อิทัปปัจจยตา = คือความที่เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
การเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรต้านทานให้เป็นอย่างอื่่นได้
๗. สุญญตา = ความว่างจากความหมายแห่งตัวตน(การปฏิับัติสุญญตา คือ การปฏิบัติทั้งหมด)
๘. ตถาตา = ความเป็นเช่นนั้นเอง เป็นอย่างอื่นไม่ได้
๙. อตัมมยตา = ความไม่เกี่ยวข้องด้วยความเป็นคู่ , ภาวจิตที่อยู่เหนือการปรุงแต่ง ,
ไม่สำเร็จมาจากสิ่งนั้น (กูไม่เอากะมึงนะโว้ย)
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
หลักการตรัสหรือไม่ตรัสของพระพุทธองค์
๑. คำพูดที่ไม่จริง  ไม่เป็นประโยชน์  ไม่พึงใจผู้อื่น  ไม่ตรัส
๒. คำพูดที่จริง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๓. คำพูดที่จริง เป็นประโยชน์ ไม่พึงใจผู้อื่น เลือกกาลตรัส
๔. คำพูดที่ไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๕. คำพูดที่จริง ไม่เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๖. คำพูดที่จริง เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น เลือกกาลตรัส
๒. คำพูดที่จริง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๓. คำพูดที่จริง เป็นประโยชน์ ไม่พึงใจผู้อื่น เลือกกาลตรัส
๔. คำพูดที่ไม่จริง ไม่เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๕. คำพูดที่จริง ไม่เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น ไม่ตรัส
๖. คำพูดที่จริง เป็นประโยชน์ พึงใจผู้อื่น เลือกกาลตรัส
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
พุทธทาสวาทะ
จงทำกับเพื่อนมนุษย์โดยคิดว่า
๑. เขาเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเรา
๒. เขาเป็นเพื่อนเวียนว่ายอยู่ในวัฎฎสงสารด้วยกันกะเรา
๓. เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส เหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง
๔. เขาก็มีราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเรา
๕. เขาย่อมพลั้งเผลอบางคราว เหมือนเรา
๖. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา
๗. เขาโง่ในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยโง่
๘. เขาก็ตามใจตัวเองในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยกระทำ
๙. เขาก็อยากดี เหมือนเรา ที่อยาก ดี-เด่น-ดัง
๑๐. เขาก็มักจะกอบโกยและเอาเปรียบเมื่อมีโอกาสเหมือนเรา
๑๑. เขามีสิทธิ ที่จะบ้าดี เมาดี-หลงดี-จมดี เหมือนเรา
๑๒. เขาเป็นคนธรรมดา ที่ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่างๆ เหมือนเรา
๑๓. เขาไม่มีหน้าที่ ที่จะเป็นทุกข์ หรือตายแทนเรา
๑๔. เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติ ร่วมศาสนา กะเรา
๑๕. เขาก็ทำอะไรด้วยความคิดชั่วแล่น และผลุนผลัน เหมือนเรา
๑๖. เขามีหน้าที่รับผิดชอบ ต่อครอบครัวของเขา มิใช่ของเรา
๑๗. เขามีสิทธิ ที่่จะมีรสนิยม ตามพอใจของเขา
๑๘. เขามีสิทธิ ที่จะเลือก(แม้ศาสนา) ตามพอใจของเขา
๑๙. เขามีสิทธิ ที่จะใช้สมบัติ สาธารณะ เท่ากันกับเรา
๒๐. เขามีสิทธิ ที่จะเป็นโรคประสาท หรือเป็นบ้า เท่ากับเรา
๒๑. เขามีสิทธิ ที่จะขอความช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจ จากเรา
๒๒. เขาจะได้รับอภัย จากเรา ตามควรแก่กรณี
๒๓. เขามีสิทธิ ที่่จะเป็นสังคมนิยม หรือ เสรีนิยม ตามใจเขา
๒๔. เขามีสิทธิ ที่จะเห็นแก่ตัว ก่อนเห็นแก่ผู้อื่น
๒๕. เขามีสิทธิ แห่งมนุษย์ชน เท่ากันกับเรา สำหรับจะอยู่ในโลก
ถ้าเราคิดกันอย่างนี้ จะไม่มีการ ขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น
(พุทธทาส อินทปัญโญ)
สวนโมกขพลาราม, ไชยา
๒๒ พ.ค. ๒๕๓๑
๑. เขาเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของเรา
๒. เขาเป็นเพื่อนเวียนว่ายอยู่ในวัฎฎสงสารด้วยกันกะเรา
๓. เขาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส เหมือนเรา ย่อมพลั้งเผลอไปบ้าง
๔. เขาก็มีราคะ โทสะ โมหะ ไม่น้อยไปกว่าเรา
๕. เขาย่อมพลั้งเผลอบางคราว เหมือนเรา
๖. เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม เหมือนเรา ไม่รู้จักนิพพานเหมือนเรา
๗. เขาโง่ในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยโง่
๘. เขาก็ตามใจตัวเองในบางอย่าง เหมือนที่เราเคยกระทำ
๙. เขาก็อยากดี เหมือนเรา ที่อยาก ดี-เด่น-ดัง
๑๐. เขาก็มักจะกอบโกยและเอาเปรียบเมื่อมีโอกาสเหมือนเรา
๑๑. เขามีสิทธิ ที่จะบ้าดี เมาดี-หลงดี-จมดี เหมือนเรา
๑๒. เขาเป็นคนธรรมดา ที่ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่างๆ เหมือนเรา
๑๓. เขาไม่มีหน้าที่ ที่จะเป็นทุกข์ หรือตายแทนเรา
๑๔. เขาเป็นเพื่อนร่วมชาติ ร่วมศาสนา กะเรา
๑๕. เขาก็ทำอะไรด้วยความคิดชั่วแล่น และผลุนผลัน เหมือนเรา
๑๖. เขามีหน้าที่รับผิดชอบ ต่อครอบครัวของเขา มิใช่ของเรา
๑๗. เขามีสิทธิ ที่่จะมีรสนิยม ตามพอใจของเขา
๑๘. เขามีสิทธิ ที่จะเลือก(แม้ศาสนา) ตามพอใจของเขา
๑๙. เขามีสิทธิ ที่จะใช้สมบัติ สาธารณะ เท่ากันกับเรา
๒๐. เขามีสิทธิ ที่จะเป็นโรคประสาท หรือเป็นบ้า เท่ากับเรา
๒๑. เขามีสิทธิ ที่จะขอความช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจ จากเรา
๒๒. เขาจะได้รับอภัย จากเรา ตามควรแก่กรณี
๒๓. เขามีสิทธิ ที่่จะเป็นสังคมนิยม หรือ เสรีนิยม ตามใจเขา
๒๔. เขามีสิทธิ ที่จะเห็นแก่ตัว ก่อนเห็นแก่ผู้อื่น
๒๕. เขามีสิทธิ แห่งมนุษย์ชน เท่ากันกับเรา สำหรับจะอยู่ในโลก
ถ้าเราคิดกันอย่างนี้ จะไม่มีการ ขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น
(พุทธทาส อินทปัญโญ)
สวนโมกขพลาราม, ไชยา
๒๒ พ.ค. ๒๕๓๑
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)


 
